การตีลายปักคืออะไร
หากว่าคุณยังเป็นมือใหม่ในวงการจักรปัก คุณคงเริ่มได้ยินเกี่ยวกับระบบการปักแบบดิจิตอล ว่าต้องมีการออกแบบหรือ
ตีลายปัก ในบทความนี้เราจะมาทําความเข้าใจความหมาย หลักการ และภาพรวมของกระบวนการตีลายปักกันนะครับ
การออกแบบ ตีลายปักคืออะไร
การปักดิจิตอลเป็นกระบวนการของการเปลี่ยนต้นแบบรูปภาพให้เป็นไฟล์ดิจิตอลที่จักรปักคอมพิวเตอร์สามารถอ่าน และ
ปักออกมาให้สวยงามใกล้เคียงกับต้นฉบับ
การออกแบบลายปักแบบดิจิตอลคืออะไร
บ่อยครั้งที่เราได้ยินคนพูดถึง “การแปลง” ไฟล์จากกราฟิกเป็นไฟล์งานปัก แต่จริงๆแล้วนั้นอาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน การแปลงหมายความว่า คุณสามารถกดปุ่มเพื่อสร้างไฟล์งานปักจากรูปภาพ แม้ว่าซอฟต์แวร์การปักส่วนใหญ่จะอนุญาตให้เราสามารถแปลงพื้นที่เป็นดิจิตอล ในรูปภาพของคุณโดยอัตโนมัติ แต่การปักงานแบบมืออาชีพที่แท้จริงนั้นไม่ใช่งานเพียงคลิกเดียว และต้องใช้ประสบการณ์และความรู้บางอย่าง อาทิ การปรับทิศทางไหม ความหนาแน่น การเผื่อไหมหดตัว เพื่อทำให้งานปักออกมาสมบูรณ์และสวยงามมากที่สุด
ไฟล์ดิจิตอลสำหรับจักรปักคืออะไร?
ไฟล์ดิจิตอลสำหรับการปักด้วยเครื่องจักรปักคอมพิวเตอร์ หมายถึงรูปแบบไฟล์ดิจิตอลเครื่องปักสามารถอ่านไฟล์ได้ และเครื่องสามารถปักชิ้นงานที่ทำการออกแบบตามคำแนะนำของไฟล์ ไฟล์งานปักแบบดิจิตอลอาจมีรูปแบบไฟล์ที่หลากหลาย เนื่องจากเครื่องปักประเภทต่างๆ อ่านไฟล์ประเภทต่างๆ อาทิจักรปักของ Brother รองรับนามสกลุ PES จักรปัก Metrix รองรับนามสกุล DST
รูปแบบไฟล์งานสำหรับงานปักคืออะไร?
ในโลกของงานปัก มีรูปแบบไฟล์งานปักที่แตกต่างกันมากมาย เนื่องจากผู้ผลิตเครื่องปักแต่ละรายใช้ไฟล์ประเภทที่เป็นกรรมสิทธิ์ ตัวอย่างเช่น เครื่องปักของ Brother จะอ่านรูปแบบไฟล์ PES เครื่องปัก Janome อ่านไฟล์ JEF
งานปักที่เป็นเป็นดิจิตอลยากไหม
หลายคนที่ไม่เข้าใจเทคนิคการสร้างลายปักที่แท้จริง มักจะใช้การแปลงเป็นดิจิตอลแบบอัตโนมัติ ซึ่งผลลัพธ์ของชิ้นงานไม่ดีทำให้คิดว่าการออกแบบลายปักเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าคุณสนใจที่จะออกแบบลายปักเป็นดิจิตอลอย่างแท้จริง การเรียนรู้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก กุญแจสำคัญคือการฝึกฝน คุณต้องเต็มใจที่จะสร้างดีไซน์การปัก ทดลองปักทุกครั้ง สังเกตว่าการออกแบบของคุณออกมาเป็นอย่างไร และจากนั้นทำการแก้ไข เป็นกระบวนการของการลองผิดลองถูก ถามคำถามและทดสอบการออกแบบของคุณ
ความยากในการแปลงเป็นดิจิตอลก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของการออกแบบการปักด้วยเช่นกัน การออกแบบที่เหมือนจริงและซับซ้อนของต้นฉบับจะสร้างความซับซ้อนมากกว่ารูปทรงและการออกแบบที่เรียบง่าย เมื่อคุณกำลังเรียนรู้ที่จะแปลงเป็นดิจิตอล ให้เริ่มต้นด้วยภาพต้นฉบับที่ไม่มีความซับซ้อน และค่อยๆเพิ่มความยากขึ้นไป
ทักษะใดที่จำเป็นสำหรับการเป็นช่างตีลายในงานปักแบบคอมพิวเตอร์
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปินมืออาชีพ หรือช่างเทคนิคเพื่อที่จะเป็นนักออกแบบลายปัก การที่มีประสบการณ์ในการออกแบบกราฟิก และพื้นฐานคอมพิวเตอร์บางทีก็สามารถทำให้การฝึกฝนเป็นได้อย่างรวดเร็ว แต่เคล็ดลับความสำเร็จคือการหมั่นฝึกฝน และทดลองปักเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด
อุปกรณ์อะไรที่คุณต้องใช้ในการออกแบบงานปักแบบดิจิตอล?
ซอฟต์แวร์ออกแบบลายปักจำเป็นสำหรับการปักด้วยเครื่องจักร ส่วนใหญ่ทำงานบนPC อย่างไรก็ตาม คุณสามารถติดตั้งโปรแกรมจำลอง PC บน MAC OS ของคุณและเรียกใช้ซอฟต์แวร์ใดๆ ก็ได้บน PC เท่านั้นผ่านโปรแกรมจำลอง Embrilliance Stitch Artist เป็นหนึ่งในโปรแกรมการปักดิจิตอลไม่กี่โปรแกรมที่จะทำงานโดยกำเนิดบน MAC OS
นักออกแบบลายปักส่วนใหญ่ชอบทำงานกับแท็บเล็ตและปากกาทัชกสรีน แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่อุปกรณ์เสริมที่จำเป็น การแปลงเป็นดิจิตอลบนโน๊ตบุ๊ค ในการวาดหรือสร้างลายปักจริงๆแล้ว การใช้เม้าส์แบบธรรดาจะทำให้การออกแบบลายปักเป็นเรื่องที่ง่านกว่าการใช้ปากกาทัชกสรีน
ขั้นตอนการปักผ้าแบบลายปักมีกระบวนการและขั้นตอนอย่างไร
1. เลือกต้นแบบงานปักที่ต้องการ
คำว่า “การแปลงเป็นดิจิตอล” หมายความว่า ผู้ออกแบบจะต้องใช้เครื่องมือในการออกแบบลายปักทำการสร้างลายปักด้วยตัวเอง เมื่อคุณแปลงเป็นดิจิตอล งานออกแบบอาจเริ่มต้นจากการวาดลายตามต้นฉบับที่มีให้แล้วค่อยพัฒนาต่อยอดไปเป็นการวาดลายด้วยตัวเอง
2. แปลงงานต้นแบบงานปักของคุณให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมและปรับขนาดหากจำเป็น
ลดจำนวนสีของคุณ โปรแกรมออกแบบลายปักที่มีอยู่มีหลักการในการวาด และการเลือกองค์ประกอบที่ไม่แตกต่างกันมาก แต่การเข้าใจลักษณะฝีเข็มและเครื่องมือสามารถทำให้คุณออกแบบลวดลายปักได้อย่างสวยงาม
3. ลดจำนวนสีในงานปัก
บางครั้งต้นฉบับที่นำมาทำลายปักมีจำนวนของสีที่มากเกินความจำเป็น นักออกแบบลายปักสามารถตัดสินใจลดจำนวนสีให้เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไปเพื่อให้งานปักมีความสมดุลของจำนวนสีไหมและฝีเข็ม
4. ตัดสินใจว่าการออกแบบการปักนี้จะเหมาะกับวัสดุประเภทใด
การตั้งค่าลักษณะการปักบางอย่าง เมื่อทำการแปลงเป็นดิจิตอลควรกำหนดโดยคำนึงถึงวัสดุที่คุณจะทำการปัก ควรตั้งค่าให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าหรือวัสดุที่ต้องการปัก
5. กำหนดลำดับการสั่งปัก
เรียงลำดับก่อนหลังของการปักให้ถูกต้อง สิ่งไหนควรปักก่อนจำเป็นต้องให้อยู่ลำดับแรกๆ การปักวนไปมานอกจากทำให้งานผิดพลาด เปลืองเวลาแล้ว ปัญหาด้ายโยงจะตามมาด้วยทันที และให้คิดถึงลำดับตรรกะของการปักส่วนต่างๆในงานออกแบบของคุณ จุดสิ้นสุดของลำดับแรก ต้องใกล้กับจุดเริ่มจองลำดับที่สอง เพื่อให้ลายปักมีความต่อเนื่องกัน
6. เลือกลักษณะฝีเข็มและทิศทางไหม
สำหรับแต่ละพื้นที่ของการออกแบบ คุณจะต้องระบุประเภทและทิศทางของฝีเข็ม (เส้นเย็บ ซิกแซก หรือ พื้น) ซอฟต์แวร์แต่ละตัวรองรับฝีเข็มหลายประเภท เพื่อที่จะเรียนรู้ความแตกต่างแตกต่างกัน อาจทดลองปักตัวอย่างลักษณะฝีเข็มที่มีเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกได้
7. โครงการการเย็บ (Under Lay)
ในงานปักระบบคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่สองประการคือ ยึดผ้าของคุณเข้ากับแผ่นรองปัก และ เพิ่มความหนาแน่นในงานปักให้มีความสม่ำเสมอการชดเชยการดึง (Pull Compensation) เป็นการเผื่อการหดตัวของไหมให้ปักออกมาแล้วพอดีกับต้อนแบบ เพราะการปักลงบนชิ้นงานย่อมมีการดึงและหดของไหมปัก โดยทั่วไปผู้ออกแบบจะเพิ่มค่าเพียงเล็กน้อยในการชดเชยการดึง
8. ทดสอบปักชิ้นงานตัวอย่าง
การทดสอบงานปักกับผ้าหรือวัสดุจริงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเป็นการประเมินความถูกต้องของกระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมาว่ามีข้อผิดพลาดหรือจุดพกพร่องประการใด ผู้ออกแบบจะได้ทำการแก้ไขให้งานปักออกมาสมบูรณ์
บทสรุปของบทความนี้ภาพรวมของการออกแบบลายปักดิจิตอล คือเป็นการแปลงหรือวดลายปักจากต้นแบบด้วยซอฟแวร์ออกแบบลายปัก เพื่อผลในการควบคุมเครื่องปักคอมพิวเตอร์ให้ทำงานตามคำสั่งของไฟล์ดิจิตอล โดยการตีลายปักต้องอาศัยความตั้งใจและหมั่นฝึกฝนจนเกิดความชำนาญหมั่นทดลองปักและแก้ไขข้อผิดพลาด ยิ่งจะทำให้ผู้ออกแบบพัฒนาฝีมือในการสร้างลายปักได้ก้าวหน้าอย่างแน่นอน
